“ครูหนุ่ย” หลั่งน้ำตากราบเท้าขมาญาติ “อลิส” ย่าลั่น! 15 วันต้องเยียวยา 2 แสน

“ครูหนุ่ย” หลั่งน้ำตากราบเท้าขมาญาติ “อลิส” ย่าลั่น! 15 วันต้องเยียวยา 2 แสน

จากการร้องไห้วันนี้ อยากให้ทุกคนลองกลับไปฟังที่ครูบอกในวันไกล่เกลี่ยที่ สภ. ในวันนั้นอีกครั้งค่ะ นางบอกว่าครูไม่รู้กฏหมาย และปฏิเสธการเยียวยานี้ จนทนายฝ่ายแม่อารมณ์ขึ้นแค่ไหน ญาติๆทุกคนเดิอดแค่ไหนคงจำความรู้สึกนั้นไม่ลืม พานขันธ์ห้าวันนี้รรวมถึงการกราบ และน้ำตาจึงดูเหมือนว่ามันสายไปแล้ว เพราะไม่มีความจริงใจตั้งแต่ต้น
ในทางวิชาชีพคุณคงบอกตัวเองได้นะว่าควรดำรงอาชีพนี้ต่อไปมั้ย การแสดงความรับผิดชอบคือทางออกที่ดีตั้งแต่แรกแม้คุณไม่ได้ทำใช้สติก่อนพูดอะไรๆจะมาบอกว่าตัวไม่ผิดก็ไม่เชิงนะเราเอาลูกไปส่ง.ร.ร.ก็ใว้ใจอยู่ในความดูแลของครู แต่คุณยังมีมาพูดว่าตัวเองผิดอะไร..ฝากใว้ให้คิดค่ะ ลูกใครๆก็รัก
คุณกราบขอขมาขอโอกาสจากแม่ของน้อง แต่ตัวน้องเองไม่มีโอกาสเเม้แต่บอกลาแม่เขาจนวินาทีสุดท้าย คุณเอาทนายมาสู้ทุกอย่างจนจนหลังชนฝาจนสู้ไม่ได้คุณถึงไม่ยอมขอโทษพ่อแม่เขาต้องเสียใจเสียน้ำตาไปตั้งเท่าไหร่เป็นเราใครจะว่าใจดำก็ช่างเราก็ไม่ให้อภัยคุณเหมือนกัน
ครูหนุ่ยนี่ตัวดีเลยนะ เอะอะ “ขอความเป็นส่วนตัวค่ะ”
ก็หัวหมออยู่เหมือนกันนะ ครูอีก2คน เขาก็ยอมรับ ชดใช้และเยียวยา จริงๆต่อให้1ล้าน เราคนเป็นแม่ยังทำใจรับไม่ได้เลย ลูกเราทั้งคน ตายไม่ทันได้ร่ำลา ไม่ได้กอด ไม่ได้จูบ ไหนจะความทรมานกว่าน้องจะขาดใจตาย ต้องสำลักน้ำไปเท่าไหร่ แค่นึกภาพก็ร้องไห้แล้ว

เราเคยทำงานตรงนี้ดูแลเด็ก เปนแค่ครูพี่เลี้ยงหรือผู้ช่วยครูค่ะ ทำได้ไม่นานก็ออกเพราะงานนี้ไม่เหมาะกับเราค่ะ งานแบบนี้มันต้องอยู่ในสามัญสำนึก จิตใจต้องได้ด้วย ต้องมีความรักความเมตตา ถ้ารู้ว่าตัวเองไม่เกมาะสมก็แค่ถอยออกมา ตั้งแต่ดูข่าวตอนแรกเราคอนเฟิมเลยว่าคนดูแลเด็กนี่แหละทำเด็กตุย ถ้ายอมรับความจิงตั้งแต่แรกก็ดีแล้ว พวกคุณไม่ทำแล้วใครจะทำไม่ว่าจะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ แถมยังโยนความผิดให้เดกอีกบอกว่าเดกเดินไป เก่งให้ตลอด ตอนนี้มันสายเกินไปแล้ว